วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การทำน้ำชีวภาพอัญชัน

การทำน้ำชีวภาพอัญชัน

หลังบ้านของฉันมีต้นดอกอัญชันที่ฉันหวงมาก เนื่องจากกลีบดอกจะซ้อนกันเหมือนกลีบดอกกุหลาบหลักการทำน้ำชีวภาพคือสรรพคุณทางยาของสมุนไพรจะไม่เปลี่ยน
ที่ฉันทำทุกวันคือตื่นเช้าจะเข้าสวนหลังบ้าน หลังจากยืดเส้นยืดสายแล้วก็เด็ดดอกอัญชัญ เก็บได้วันละ 50-100 ดอก จากนั้นนำไปล้าง ผึ่งลมให้แห้งนิดหน่อย แล้วนำไปใส่ในขวดพลาสติกมีฝาปิด เทน้ำตาลทรายแดงใส่พอท่วมทุกครั้งที่เติมดอกอัญชันลงไป หมักไปเป็นเดือน จนกว่าน้ำหมักที่ได้จะเปลี่ยนสีจากสีฟ้าเข้มเป็นสีม่วง-อมฟ้าชมพู นั่นแสดงว่าเกิดความเปรี้ยวได้ที่ ชิมดูจะมีรสชาดเปรี้ยว

สรรพคุณทางยาของมันคือช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้เส้นผมดกดำ
จากการหมักดอกอัญชันนี้ ฉันทำผลผลิตได้ 3 อย่างคือ
1. ไวน์หวานอัญชัน(blue peas sweet wine)
โดยผสมไวน์ที่หมักได้กับน้ำเชื่อมและน้ำเปล่า ในอัตราส่วน 1:1:1 ผสมกับน้ำแข็งก้อน เขย่าในขวดให้เข้ากัน แล้วเสริฟใส่น้ำแข็ง แอลกอฮอล์ที่ได้ประมาณ 5-7 ดีกรี
2. นำมาใช้ในการทำน้ำยาเอนกประสงค์อัญชันชีวภาพ เนื่องจากน้ำชีวภาพทำลายจุลินทรีย์ และน้ำชีวภาพอัญชันให้สีชมพูอมม่วง
ส่วนผสมอื่นก็คือ N70 -สารขจัดคราบ, เกลือ-เพื่อปรับสภาพข้น-เหลว , น้ำเปล่า- จำนวน 10 ขัน และน้ำชีวภาพอัญชัน 300 ซีซี
(จะแนะนำขั้นตอนการทำในตอนต่อไป)
3. ใช้สเปรย์หมักผมไว้สักครู่ก่อนสระเพื่อลดอาการคันศีรษะ

การทำน้ำยาอเนกประสงค์อัญชันชีวภาพ(สูตร2)

การทำน้ำยาอเนกประสงค์อัญชันชีวภาพ(สูตร2)

สูตรนี้เกิดขึ้นมาเนื่องจากน้ำยาอเนกประสงค์อัญชันชีวภาพกลายสภาพเป็นน้ำใสๆ ภายในเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากกระบวนการทำ แก้ปัญหาโดยใช้กลีบดอกอัญชันตากแห้งต้มน้ำ 2 ช.ต. และได้เพิ่มน้ำผึ้ง 60 ซี.ซี. เพื่อลดการตึงผิว เนื่องจากผู้เขียนได้รับคอมเม้นต์จากท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง จึงขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

ส่วนผสมมีดังนี้
น้ำหมักชีวภาพอัญชัน 200 มล. หรือ 1 แก้ว
เกลือป่น 1 ก.ก. (12 บาท)
น้ำเปล่า 8 ขัน (1 ถัง)
N 70 (สารขจัดคราบ) 1 ถุง ราคา 80 บาท
กลีบดอกอัญชันตากแห้งประมาณ 50 กลีบ (10ดอก) ใส่น้ำเล็กน้อย
พอท่วมประมาณ 2 ช.ต. ต้มพอออกสีแล้วกรองไว้
น้ำผึ้ง 60 ซีซี.

ขั้นตอนการทำ : 1. เท N 70 ใส่ถัง ใช้ไม้พายกวนเบาๆ
ไปทางเดียวกันจนขึ้นขาว
2. เติมน้ำอัญชันที่ต้มได้ทีละนิดสลับกับการคนเบาๆไปทางเดียวกัน
3. จากนั้นเติมน้ำหมักชีวภาพอัญชันทีละนิดสลับกับการคนเบาๆ
ไปทางเดียวกันจนหมด
4. ใส่น้ำผึ้ง แล้วคนเบาๆ
5. เติมเกลือเติมน้ำทีละนิดพร้อมคนเบาๆสลับกันไป
เกลือ..ช่วยในการปรับความข้นความเหลว
ทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อให้ฟองยุบตัว รุ่งเช้ากรอกใส่ขวด
จะได้น้ำยาอเนกประสงค์สีม่วงใส 1 แกลลอน
(12 ลิตร) และขวดพร้อมใช้อีก 3 ลิตร

สรุป : ลงทุนไม่เกิน 100 บาท ได้ทั้งน้ำยาซักผ้า
น้ำยาล้างจาน และสบู่เหลว

น้ำยาซักผ้า ล้างจาน ล้างรถ สูตรชีวภาพ ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ราคาถูกมากๆ

ำยาซักผ้า ล้างจาน ล้างรถ สูตรชีวภาพ ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ราคาถูกมากๆ
        คุณ
เคยคำนวณบ้างหรือไม่ว่าในแต่ละเดือนครอบครัวของเราจ่ายเงินไปเท่าไรในการซื้อผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างรถ หรือน้ำยาทำความสะอาดสารพัดล้าง แล้วสินค้าที่เราซื้อมาใช้นั้นดีจริงอย่างที่เขาโฆษณาหรือเปล่า วันนี้เรามาลองใช้ภูมิปัญญาเพื่อพึ่งพาตนเองกันเถอะ มาทำผลิตภัณฑ์ดีๆ ราคาถูกมากๆใช้เองดีกว่า จะขอเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า "น้ำยาอเนกประสงค์ สูตร 2 พลัง" ซึ่งใช้ซักล้างได้สารพัด ทั้งซักผ้า ล้างจาน ล้างรถ ทำความสะอาดพื้น ล้างคราบสกปรก และมีพลังขจัดคราบมากเป็น 2 เท่า คือ ทั้งจากสารขจัดคราบ และ จากกรดในน้ำหมักชีวภาพสูตรผลไม้
  ส่วนผสม 
   1. EMAL 270 TH หรือ N 70 (หัวแชมพู)                           1     กก.
                  2. EMAL 10 P (ผงฟอง)                                           200    กรัม
                  3. Sodium chloride (ผงข้น)                                      500     กรัม
                  4. น้ำสะอาด                                                       10-11    กก.
                  5. NEOPELEX  F 50(สารขจัดคราบชนิดเข้มข้น)          500-700    กรัม
                      (ถ้าใช้สารขจัดคราบชนิดธรรมดา NEOPELEX  F 24 ใช้        1    กก.)
                  6.น้ำหมักชีวภาพ(สูตรเนื้อมะกรูด)                                        2    กก.
                     (หรือจะใช้น้ำหมักชีวภาพที่หมักจากผลไม้รสเปรี้ยวชนิดอื่นๆที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นทดแทนกันได้ เช่น สับปะรด มะเฟือง มะนาว ฯลฯ ดูข้อมูลการทำน้ำหมักชีวภาพเพิ่มเติมได้ในเรื่องผลไม้ลดโลกร้อน)
                  7.น้ำหอมกลิ่นตามชอบ(จะไม่ใส่เลยก็ได้) 
  


         วิธีทำ  
            1. ใส่หัวแชมพู ผงฟอง และผงข้นลงในภาชนะ(ควรเทผงฟองต่ำๆเบา ๆ เพราะจะฟุ้ง และสูตรที่ให้นี้จะได้น้ำยาปริมาณมากถึง 15 ลิตร ควรใช้ถังพลาสติกก้นเรียบใบใหญ่ๆในการผสม) 
            2. ใช้พายคนส่วนผสมทั้ง 3 อย่าง ให้เข้ากันให้มากที่สุด(ประมาณ 5 นาที ส่วนผสมจะเป็นครีมขาว ข้น ฟู คล้ายๆกับครีมแต่งหน้าขนมเค้ก) แต่อาจยังมีเสียงดังแกรก ๆ เหมือนมีเม็ดทรายอยู่เล็กน้อย
            3. ค่อยๆเติมน้ำสะอาดทีละน้อยๆพร้อมกับคนส่วนผสมให้ละลายเข้ากันไปเรื่อยๆ (ถ้าใส่น้ำครั้งเดียวหมด ส่วนผสมจะเป็นก้อน คนให้ละลายเข้ากันได้ยากมาก)            
            4. เมื่อใส่น้ำจนครบตามจำนวนจึงใส่สารขจัดคราบแล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน  
            5. ใส่น้ำหมักชีวภาพ แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน(ถ้าใช้น้ำหมักชีวภาพที่หมักจากผลไม้ นาน 3 เดือนขึ้นไป
เมื่อผสมแล้วจะเก็บน้ำยาได้นานเป็นปี โดยไม่เสียง่าย)
               
ถ้าไม่มีน้ำหมักชีวภาพมะกรูดที่หมักจนได้ที่แล้ว แต่ต้องการรีบใช้น้ำยา จะใช้น้ำมะกรูดต้มแทนก็ได้  
ทำโดยหั่นผลมะกรูดตามขวางลูก ผสมกับน้ำสะอาดหรือน้ำซาวข้าวให้ท่วมเนื้อมะกรูด นำไปต้มจนเนื้อมะกรูดเปื่อยดี
แล้วจึงกรองเอาเฉพาะน้ำมาใช้ แต่การใช้น้ำมะกรูดต้มนี้ เมื่อผสมเป็นน้ำยาแล้ว จะเก็บได้นานประมาณ  1 เดือนเท่านั้น ถ้าเกินกว่านี้ น้ำยาจะมีกลิ่นคล้ายน้ำดองผักหรือผลไม้ ไม่น่าใช้ 

            6.ใส่น้ำหอม คนส่วนผสมให้เข้ากันดี(จะไม่ใส่น้ำหอมเลยก็ได้ ถ้าใช้เป็นน้ำยาล้างจานไม่ควรใส่
น้ำหอมเลย)
            7.ตั้งทิ้งไว้ให้ฟองยุบตัว(1 คืน)จึงกรอกใสภาชนะเก็บไว้ใช้

หมายเหตุ
 
       ความจริงแล้วน้ำยาทำความสะอาดต่างๆที่จำหน่ายในท้องตลาดทั่วๆไปนั้น มี ส่วนผสม สูตร และวิธีทำคล้ายๆกัน อาจมีข้อแตกต่างกันไปบ้างในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น ชื่อของหัวแชมพู ชื่อของสารขจัดคราบ ปริมาณของส่วนผสม เพียงแต่น้ำยาฯ ที่ผลิตขายกันทั่วไปตามท้องตลาดนั้น จะใส่สีและกลิ่นให้ต่างกันออกไป จึงเรียกเป็นน้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างรถ ฯลฯ  ผู้ใช้จึงคิดว่าน้ำยาแต่ละชนิดที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดต่างกันด้วย และน้ำยาต่างๆที่ขายทั่วไปนั้น จะไม่มีส่วนผสมของสารชีวภาพแต่ใส่สีและกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติ(ดูได้จากโฆษณา น้ำยา...กลิ่นมะกรูด กลิ่นมะนาว กลิ่นสตรอเบอรี่) 
       

      น้ำยาอเนกประสงค์สูตรที่ให้ไปนี้ สูตรเดียวสามารถใช้ได้ทั้งซักผ้า ล้างจาน ล้างรถ  ทำความสะอาดพื้น ขอแนะนำว่าน้ำยาอเนกประสงค์ที่เราทำใช้เองไม่จำเป็นต้องใส่สีเลย(ลดการใช้ทรัพยากร ลดการใช้สารเคมี) และการทำน้ำยาสำหรับล้างจานไม่ควรใส่กลิ่น (ลดปริมาณสารเคมีตกค้าง) การทำน้ำยาซักผ้า อาจเลือกใช้กลิ่นที่ชอบและใส่เท่าที่คิดว่าหอมเพียงพอแล้ว  ส่วนการทำน้ำยาล้างรถ น้ำยาทำความสะอาดพื้น จะใส่กลิ่นหรือไม่ก็ได้  น้ำหอมแต่ละกลิ่นก็มีราคาถูก-แพงแตกต่างกัน (หรือจะทำสูตรเดียวโดยไม่ต้องใส่น้ำหอมเลย แล้วใช้ทุกอย่างก็ได้)   สำหรับการขจัดคราบที่สกปรกมาก อาจใส่สารขจัดคราบและน้ำหมักชีวภาพเพิ่มได้อีก แต่ถ้าใส่มากเกินไปจะกัดมือ   และถ้าใส่น้ำหมักชีวภาพแล้วไม่จำเป็นต้องใส่สารกันเสีย เพราะน้ำหมักชีวภาพจะช่วยกันเสียได้ ตามสูตรนี้เมื่อผสมเสร็จแล้วจะได้น้ำยาประมาณค่อนถังสีพลาสติกใบใหญ่ ครอบครัวเล็กๆใช้ไปได้หลายเดือนเลย
การใช้น้ำยาอเนกประสงค์สูตรน้ำหมักชีวภาพสำหรับการซักผ้า
     
เพียงใส่น้ำยาฯลงในน้ำสะอาด(ปริมาณใกล้เคียงกับการใช้น้ำยาซักผ้าทั่วๆไป) แล้วผสมน้ำยาฯให้ละลายเข้ากันกับน้ำ นำผ้าลงแช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที   จากนั้นก็ซักเหมือนกับการซักผ้าด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าทั่วๆไป แต่การซักผ้าด้วยน้ำยาอเนกประสงค์สูตรชีวภาพนี้ มีข้อดีกว่าการซักผ้าด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าทั่วๆไปหลายประการ ดังนี้(ได้พิสูจน์มาแล้วทั้งด้วยตัวครูป้าเองและคนรอบข้าง)   1. ราคาถูกกว่า ประหยัดเงินมากกว่า และทำได้เองในครัวเรือน
   2. ใช้ง่ายกว่าผงซักฟอก เพราะน้ำยาละลายน้ำง่ายกว่า
   3. ใช้ซักผ้าได้ทั้งแบบซักด้วยมือ และซักเครื่อง(จะไม่มีคราบแป้งขาวๆติดผ้า)
   4.
ขจัดคราบสกปรกได้ดี เบาแรงขยี้ ถนอมมือ
   5. ถึงแช่ผ้าทิ้งไว้ค้างคืน น้ำซักผ้าก็ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า(เพราะไม่มีส่วนผสมของแป้ง)
   6. เมื่อผ้าแห้งแล้วจะมีกลิ่นสะอาด ไม่เหม็นอับ
   7. แม้ตากผ้าไว้ในที่ร่ม หรือตากผ้าตอนกลางคืน ก็ไม่มีกลิ่นเหม็น
   8. ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ไม่มีแสงแดด ตากผ้าไว้แล้วไม่แห้งภายในวันเดียวผ้าก็ไม่เหม็นอับ
   9. เสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วจะมีกลิ่นเหม็นน้อยกว่าเสื้อผ้าที่ซักทั่วๆไป(น้ำหมักชีวภาพจะช่วยยับยั้งกลิ่นเหม็น)
  10. ถนอมเส้นใยผ้า เสื้อผ้าไม่เก่าเร็ว
  11. น้ำทิ้งจากการซักผ้า เมื่อนำไปรดต้นไม้จะโตดี มีโรคและแมลงรบกวนน้อย
  12. น้ำทิ้งจากการซักผ้า เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า(เพราะไม่มีส่วนผสมของโซดาไฟ,สีสังเคราะห์)
      

การทำน้ำยาอเนกประสงค์ชีวภาพอัญชัน

การทำน้ำยาอเนกประสงค์ชีวภาพอัญชัน
ใช้ซักผ้า-ล้างจาน-อาบ-ล้างหน้าวันก่อนน้ำยาซักผ้าหมดพอดี จึงได้ทำใหม่ สูตรนี้เราทำแบบพอเพียงคือค่าใช้จ่ายน้อย ไม่เกิน 100 บาท ทำได้ประมาณ 8-10 ลิตร
สามารถนำไปใช้ล้างจาน ซักผ้า ล้างหน้า หรืออาบน้ำ ได้ ประหยัดได้หลายทาง แต่ขอบอกก่อนว่าสูตรนี้ไม่มีกลิ่นน้ำหอมเนื่องจากเราเน้นเรื่องความพอเพียง
และหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ไม่จำเป็น ลองคำนวณการลดค่าใช้จ่ายดูเช่น
1. ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำยาล้างจาน
2. ไม่ต้องจ่ายค่าสบู่อาบน้ำ (ใช้แล้วผิวนุ่มกว่าใช้สบู่)
3. ลดการจ่ายค่าน้ำยาซักผ้าเดือนละ 300 บาท เหลือเพียง 100 บาท
ได้น้ำยาประมาณ 12 ลิตร รวมแล้วต่อเดือนเราจะประหยัดเงินได้เกือบ 400 บาทเชียวนะ
ส่วนผสมคือ1. ตัวน้ำยาซักผ้าหรือซักล้างใช้สาร N 70 ราคากิโลกรัมละ 70-80 บาท
2. เกลือเพื่อใช้ปรับความหนืดความข้น ความเหลวของน้ำยาประมาณ 1 ก.ก. (12 บาท)

3. น้ำชีวภาพอัญชันที่เราหมักได้จากการแนะนำคราวที่แล้ว สามารถทำลายเชื้อแบคทีเรีย และให้สีสวย โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารกันบูด ประมาณ 1 แก้ว (ขวดน้ำผลไม้ 250 มล.) 4. น้ำเปล่า 8-10 ลิตร
ขั้นตอนการทำ1. เตรียมส่วนผสมทั้ง 4 อย่าง
2. เท N 70 ใส่ลงในถังใช้ไม้พายคนเบาๆไปทางเดียวกัน ให้ขึ้นขาวฟู ถ้าหนืดเกินไป รู้สึกหนักมือให้ค่อยๆโรยเกลือลงไป (หรืออาจผสมน้ำเกลือใช้แทนได้)
3. จากนั้นค่อยๆใส่น้ำชีวภาพอัญชันเพื่อให้มีสีสวยงาม
4. ทีนี้ก็ทำสลับกันเรื่อย ถ้าหนืดเหนียวให้เติมเกลือ แล้วเติมน้ำ ถ้าเหลวไปจากการเติมน้ำมากก็เติมเกลือ จะทำให้หนืดข้นเช่นเดิม ทำเช่นนี้ไปเรื่อยจนส่วนผสมที่เตรียมไว้หมด
สุดท้ายตรวจดูความเหลวตรงความพอใจของเรา ทิ้งไว้ 1 คืนอาจทำให้หนืดขึ้นอีกเล็กน้อย ทิ้งไว้ให้ฟองยุบตัว รุ่งเช้าน้ำยาเอนกประสงค์ที่ได้ จะใสและไม่มีฟอง จากนั้นให้เรากรอกใส่ภาชนะที่ต้องการเก็บไว้ใช้ เราจะได้น้ำยาสีสวย สีม่วง-อมชมพู
จากการใช้มาอย่างต่อเนื่อง น้ำยาอเนกประสงค์อัญชันจะมีการเปลี่ยนสีเนื่องจากเราไม่ใส่ผงสีในขั้นตอนการทำ
ดังนั้นสีจึงซีดง่ายกลาย
เป็นสีขาว
วิธีการแก้ไข : ผู้เขียนเติมหัวเชื้อชีวภาพอัญชันที่หมักไว้ลงไป 1 หยดหรือมากกว่า แล้วแต่ชอบ เขย่าให้เข้ากัน ก็ได้สีสวยดังเดิม

สรุปเปรียบเทียบ - จากการใช้ได้เห็นความแตกต่างคือ
- หากลืมตากผ้าในทันที ทิ้งไว้หลายชั่วโมง ผ้าก็ไม่เหม็นทั้งนี้เนื่องจากน้ำชีวภาพอัญชัน
มีสรรพคุณดับกลิ่น กำจัดแบคทีเรีย/จุลินทรีย์ตัวร้าย
- เมื่อใช้ล้างจาน มือจะไม่ลอกเป็นขุยเหมือนใช้น้ำยาล้างจานตามท้องตลาด เนื่องจากเราไม่ใช้สารขจัดคราบ หากในบางจุดของภาชนะยังมี
ความมันอยู่ ให้เทน้ำยาชีวภาพอัญชันลงไป แล้วล้างเฉพาะที่ ล้างทำความสะอาดอีกครั้ง จะพบว่าขจัดความมันได้ดี

นํ้ายาเอนกประสงค์

วันนี้ก็ได้เวลาทำนํ้ายาต่างๆแล้วค่ะ  (เพราะว่าที่บ้านหมด) อย่างแรกที่นายจะทำนายจะทำนํ้ายาเอนกประสงค์ก่อนค่ะ  มาดูกันนะค่ะจะได้ประหยัดรายจ่ายกันค่ะ
เตรียมนํ้าด่าง หรือนํ้าเปล่า 5 ลิตร เกลือ 1 กิโล N 70 1 กิโล

นำเกลือ 1 กิโล ใส่ลงไปในนํ้า  5 ลิตร

คนให้เกลือละลาย และทิ้งไว้ให้ตกตะกอน

แล้วนำ N70 เทใส่ลงไปในถัง

แล้วคนไปทางเดียวกันให้ N 70กลายเป็นสีขาว

หลังจากนั้นให้เอานํ้าด่างที่ผสมเกลือ ตักมาใส่ก่อน 1 แก้ว

แล้วคนให้เข้ากัน

พอคนเข้ากันแล้วก็ทยอยใส่นํ้าด่างจนกว่านํ้าด่าง 5 ลิตรหมดและแล้วก็จะได้นํ้ายาเอนกประสงค์ ที่เก็บได้นาน ถึง 1 ปี โดยที่ไม่ต้องใส่สารกันบูด
 
ทีนี้เราจะมาทำนํ้ายาล้างจานกัน

นำมะกรูดมาผ่าครึ่ง

แล้วนำไปต้มให้เดือดแล้วพักให้เย็น  แล้วก็บีบแล้วนำไปกรอง

หลังจากนั้นก็ทำนํ้ายาล้างจานด้วยอัตราส่วน  1:1
นํ้ายาเอนกประสงค์ 1 ส่วน
นํ้ามะกรูด           1 ส่วน
แล้วคนให้เข้ากัน พร้อมใช้ได้เลยค่ะ

ส่วนอันนี้เป็นนํ้ายาซักผ้า

นําเปลือกสับปะรดไปต้มให้เดือดแล้วพักให้เย็นแล้วนำไปกรอง

หลังจากนั้นก็ทำนํ้ายาซักผ้าด้วยอัดตราส่วน 1:1
นํ้ายาเอนกประสงค์  1  ส่วน
นํ้าสับปะรด          1  ส่วน
แล้วคนให้เข้ากันพร้อมใช้ได้เลยค่ะ


ทั้งนํ้ายาล้างจานและนํ้ายาซักผ้านายไม่ใส่สารกันบูดและไม่ใส่สารเคมี เพราะฉะนั้นสบายใจได้เลยว่าไม่มีาสารเคมีตกค้่างแน่นอนค่ะ